วิธีลดเลือนรอยสิว และรอยแผลเป็นบนหน้า และที่อื่น ๆ
เพราะแผลเป็นเป็นเรื่องใหญ่ และอาจสร้างรอยแผลใจให้ใครหลายๆ คนได้ด้วย โดยเฉพาะแผลเป็นบริเวณใบหน้าที่อาจมีลักษณะนูน บวม เห็นได้ชัด รอยดำจากสิวบนใบหน้า นอกจากจะสร้างแผลในทางกายภาพแล้ว ปัญหาเหล่านี้ก็ยังส่งผลต่อจิตใจอีกด้วย ซึ่งนำมาสู่การเยียวยารักษาที่มีหลากหลายวิธี แต่เนื่องจากรอยแผลเป็นมีหลายรูปแบบ ทำให้โลกออนไลน์เต็มไปด้วยข้อมูลที่อาจสร้างความสับสนให้ผู้อ่าน เพราะการรักษาบางประเภท อาจไม่เหมาะกับรอยแผลเป็นบางรูปแบบนั่นเอง
รอยแผลเป็น เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสมานแผลของร่างกายหลังจากที่ผิวหนังฉีกขาด หรือ ผ่านการกรีด เย็บบนผิวหนัง ซึ่งเกิดจากคอลลาเจน และโปรตีนที่ช่วยสมานแผล และเติมเต็มช่องว่างที่เกิดจากการบาดเจ็บ ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ การผ่าตัด สิว โรคต่างๆ เช่น อีสุกอีใส โรคตุ่มน้ำพองตามผิวหนัง สะเก็ดเงิน เป็นต้น
รอยแผลเป็น มีแบบไหนบ้าง ?
1. Keloid scars แผลเป็นคีลอยด์ มีลักษณะเป็นแผลนูน ก้อนหนาๆ ที่ยื่นออกมาจากผิวหนัง อาจมีสีเดียวกับผิวหนัง สีแดงสด สีชมพู หรือสีน้ำตาล ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และสภาพแผลของแต่ละบุคคล และมักขยายขนาดออกนอกขอบแผลเดิม
2. Hypertrophic scars แผลเป็นนูน มีลักษณะเป็นก้อนนูน และหนา ความแตกต่างระหว่าง Hypertrophic scars กับ Keloid คือ Hypertrophic scars มักจะไม่ยื่นออกนอกขอบแผล แต่ Keloid มักจะยื่นออกมากกว่าและมีขนาดใหญ่กว่าขอบแผลปกติ
3. Atrophic scars แผลเป็นที่เป็นหลุม หรือเรียกอีกอย่างว่า “หลุมสิว” เกิดจากการสูญเสียเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ซึ่งทำให้ผิวหนังรอบรอยแผลดูบางลง และมีรอยย่น เนื่องจากการสูญเสียเซลล์ไขมันหรือโครงสร้างอื่นๆ ที่อยู่ใต้ผิวหนัง มักจะมีลักษณะเป็นรอยบุ๋มลึกดูเหมือนเป็นหลุม หรือรอยกดที่ผิวหนัง
4. Contracture scars แผลเป็นหดรั้ง มีลักษณะหนาและแข็ง เกิดจากการที่เนื้อเยื่อผิวหนังถูกทำลายจนทำให้ดึงรั้งอวัยวะบริเวณแผลให้ผิดรูปได้ บางครั้งอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวหนัง เพื่อป้องกันการหดตัวของแผลในอนาคต
5. รอยจากสิว การรักษาและการดูแลรอยแผลนั้นจะขึ้นอยู่กับประเภทของแผล และความรุนแรง บางรอยแผลอาจหายไปเองได้โดยไม่ต้องรักษา ซึ่งอาจต้องใช้เวลา แต่บางรอยอาจต้องพึ่งพาวิธีอื่นๆ เพื่อให้แผลเป็นอ่อนนุ่มขึ้น จางลง ลดความโดดเด่น ไม่ให้เป็นจุดสนใจ
วิธีรักษารอยแผลเป็น และรอยสิว
1. ทาครีม หรือเจลลดรอยแผลเป็น และ รอยสิว
การใช้ครีม หรือเจลลดรอยแผลเป็น และรอยดำจากสิว เป็นหนึ่งวิธีในการฟื้นฟู ที่ได้รับความนิยมสูง โดยเจลมักจะมีส่วนประกอบที่ช่วยในการลดการอักเสบ กระตุ้นการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อ และช่วยให้รอยจางลง ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลักดังนี้
- ซิลิโคนเจล (Medical Grade) ช่วยสร้างเกราะป้องกันความชื้นบนแผลเป็น ลดการสูญเสียน้ำ และทำให้แผลเป็นนุ่มลง
- สารสกัดจากหัวหอม มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- วิตามินซี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้แผลเป็นจางลง
- วิตามินอี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
- Aloe Vera เติมความชุ่มชื้น ลดรอยดำ และรอยแดง
- Glycosaminoglycans ยับยั้งเอนไซม์ MMP ลดริ้วรอยของผิว และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
2. ทำหัตถการลดรอยแผลเป็น
- การฉีดยาสเตียรอยด์ (intralesional corticosteroid injections) โดยยาสเตียรอยด์จะช่วยให้แผลนุ่มลง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อพังผืด และช่วยลดอาการคันได้ด้วย
- การเลเซอร์ ช่วยรักษารอยแผลเป็นได้หลายประเภท ทั้งแบบคีลอยด์ แผลเป็นนูน แผลเป็นบุ๋ม แผลเป็นหดรั้ง ด้วยการเลเซอร์ CO2, Erbium YAG จะกำจัดผิวชั้นนอกของรอยแผลเป็น และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
- การฉีดคอลลาเจน หรือสารเติมเต็มผิวอื่นๆ สำหรับแผลเป็นหลุม หรือรอยหลุมจากสิวบางประเภท
3. ฟื้นฟูด้วยสารสกัดธรรมชาติ
การใช้วิธีธรรมชาติในการรักษารอยแผลเป็น และรอยสิว เป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และต้นทุนไม่สูงมาก เช่น
- ใบบัวบก (Centella Asiatica) มีประสิทธิภาพในการรักษารอยแผลเป็น โดยเฉพาะแผลเป็นคีลอยด์ เนื่องจากมีสารประกอบที่ช่วยเยียวยา เช่น กรดอะเซียติก (Asiatic acid) กรดมาเดคาสสิก (Madecassic acid) มาเดคาสโซไซด์ (Madecassoside) อะเซียติโคไซด์ (Asiaticoside) สารประกอบเหล่านี้ ช่วยส่งเสริมการแบ่งตัวของไฟโบรบลาสต์ เพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน เพิ่มความแข็งแรงในการสร้างผิวขึ้นใหม่ และเพื่อเยียวยา รอยสิวบนใบหน้า และจุดอื่นๆ ให้ดูจางลง
- ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติช่วยรักษาแผลได้ เนื่องจากมีสารสกัดที่ช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อ ลดอักเสบของสิว และป้องกันการติดเชื้อในแผล วิธีการใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ และสภาพแผลเป็น ซึ่งมีส่วนผสมของวิตามิน A C E B12 และกรด Salicylic acid เป็นกรดเบต้าไฮดรอกซี (BHA) ที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการบวมแดงของผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว
- สารสกัดจากหัวหอม (Allium Cepa) หัวหอมมีคุณสมบัติในการรักษารอยแผลเป็น เนื่องจากมีส่วนประกอบของวิตามิน A C E สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ และแร่ธาตุอย่างโพแทสเซียม ซึ่งช่วยในกระบวนการฟื้นฟูรักษารอยแผลเป็น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพผิวหนัง เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง และแพ้ได้
- น้ำผึ้ง มีคุณสมบัติทางการแพทย์ที่ช่วยในการลดรอยแผลได้บ้าง โดยมีคุณสมบัติที่ช่วยบรรเทาการอักเสบ และลดการกัดกินเนื้อเยื่อภายใต้ชั้นผิว ซึ่งสามารถช่วยในกระบวนการฟื้นฟูแผล และรอยดำจากสิวได้
4. การผ่าตัด
ในการรักษารอยแผลเป็นด้วยการผ่าตัด มีหลายวิธีที่สามารถใช้ได้ ขึ้นอยู่กับชนิด และความรุนแรงของรอยแผลเป็น ซึ่งมีวิธีที่นิยม ดังนี้
- Z-plasty และ W-plasty: วิธีนี้เหมาะกับแผลเป็นชนิดคีลอยด์ ซึ่งเทคนิคเหล่านี้จะย้ายผิวหนังที่มีรอยแผลเป็นไปยังตำแหน่งใหม่ให้กับแผล เพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์เป็นรูปซิกแซกที่ช่วยให้แผลไม่เด่นชัด และสามารถพรางสายตาได้ดีกว่า
- การปลูกถ่ายผิวหนัง : การปลูกถ่ายผิวหนัง (Skin grafting) เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ใช้ในการฟื้นฟูแผลเป็น หรือบริเวณที่มีเนื้อเยื่อผิดปกติด้วยการนำเอาเนื้อเยื่อผิวหนังจากบริเวณอื่นของร่างกายมาปลูกถ่ายบนบริเวณที่มีแผลเป็น กระบวนการนี้ช่วยให้ผิวหนังที่เสียหายสามารถฟื้นฟูได้ดีขึ้น ซึ่งเหมาะกับแผลเป็นชนิดคีลอยด์ และแผลเป็นชนิดที่มีการสูญเสียเนื้อเยื่อ
ซึ่งสารสกัดทั้งหมดที่กล่าวมานั้นนำมาเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ Hiruscar ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของเจล และครีมลดรอยแผลเป็นบนใบหน้าโดยเฉพาะ มีหลากหลาย Line Product ทั้งแบบเจลที่ดูแลผิวเฉพาะจุด สูตรอ่อนโยนสำหรับเด็ก และสำหรับผู้ใหญ่ เจลที่ดูแลเรื่องสิวอักเสบ และเจลที่ดูแลรอยสิวโดยเฉพาะ และเจลสำหรับดูแลรอยแผลเป็นโดยเฉพาะ ซึ่งเหมาะกับแผลเป็นที่เกิดจากอุบัติเหตุ แผลเป็นจากการผ่าตัด แผลคีลอยด์ แผลนูน แผลเป็นบนใบหน้า รอยบาด รอยขีดข่วน หรือรอยไหม้ สามารถใช้ได้กับรอยแผลเป็นใหม่ได้โดยไม่แสบ หรือระคายเคือง
การรักษารอยแผลเป็น และรอยสิวอาจต้องใช้เวลา บางแผลอาจใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 3 – 6 เดือนขึ้นไป หรือใช้เวลาร่วมปีเพื่อให้แผลอ่อนนุ่มขึ้น และจางลงได้ดังใจ Hiruscar จึงเป็นอีกหนึ่งทางลัดให้ทุกท่านได้รักษารอยแผลเป็นและรอยสิวให้จางหาย และเรียกคืนความมั่นใจกลับมาได้